เลี้ยงสัตว์คลายเครียด ลดความกังวลใจหลับสบายขึ้น

เลี้ยงสัตว์คลายเครียด ลดความกังวลใจหลับสบายขึ้น

ทุกวันนี้คนเราเผชิญปัญหาและความเครียดหลายรูปแบบ นับตั้งแต่การหารายได้เลี้ยงชีพไปจนถึงปัญหาครอบครัวและวิกฤตสุขภาพ ทำให้เราอ่อนล้าไม่สดชื่นร่าเริงเหมือนแต่ก่อน ความรู้สึกหดหู่นี้อาจพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนด้วยกันไม่ได้มากนัก การมีสัตว์เลี้ยงแสนรักอยู่ข้าง ๆ กลับรู้สึกอุ่นใจมากกว่า แม้ว่าหมาและแมวจะพูดไม่ได้ แต่กลับส่งพลังด้านบวกให้รู้สึกอุ่นใจและลืมเรื่องแย่ ๆ ในชีวิตไปได้ คนเลี้ยงสัตว์ส่วนใหญ่จึงมีสุขภาพจิตดีขึ้นและรอดพ้นจากภาวะซึมเศร้าไปได้

สัตว์เลี้ยงช่วยฟื้นฟูสุขภาพจิตและลดความเครียดได้จริง แม้ชีวิตอยู่ในช่วงราบรื่น ไม่ได้มีอุปสรรคปัญหามากมายอะไร แต่การใช้ชีวิตประจำวันก็มีเครื่องให้เครียดมากอยู่แล้ว ทั้งงานนอกบ้าน งานในบ้าน ทำให้เหน็ดเหนื่อยแทบทุกวัน หากมีสัตว์เลี้ยงนุ่มนิ่มน่ากอดสักตัวอยู่ข้าง ๆ จะเกิดผลดีอย่างมาก ทำให้รู้สึกสงบและผ่อนคลายมากขึ้น หากทุกวันต้องพาสุนัขไปเดินเล่นจะช่วยเบนความสนใจจากเรื่องงานให้สมองได้พักผ่อนช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทำให้เจ้าของได้ออกกำลังไปพร้อมกันและยังเป็นโอกาสดีที่จะได้พูดคุยทำความรู้จักเพื่อนใหม่ที่แวะเข้ามาทักทายตามประสาคนรักสัตว์ด้วย

สัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนที่ดี หากเจ้าของให้ความรักและความอบอุ่น สุนัขจะเป็นเพื่อนที่น่ารักและภักดีที่สุด ส่วนเจ้าเหมียวเข้ามาคลอเคลียนอนกอดอุ่นให้กำลังใจเมื่อรู้สึกเหงาและช่วยให้สงบสติอารมณ์ได้ดี การใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุข ทำให้รู้สึกดีขึ้น ผ่อนคลาย ช่วยต่อสู้กับความเครียด ความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าได้ดีขึ้น ไม่เฉพาะกับผู้ใหญ่เท่านั้นที่เครียดจนนอนไม่หลับ เด็ก ๆ นอนหลับกับสัตว์เลี้ยงทำให้นอนคนเดียวได้สบาย นอนหลับสนิทต่อเนื่อง มีคุณภาพการนอนที่ดีขึ้น สัตว์เลี้ยงเพื่อนรักขนปุกปุยช่วยให้เด็กน้อยนอนหลับสนิทในเวลากลางคืนด้วยความอบอุ่นสบายใจมากกว่าเวลาที่นอนกับพ่อแม่เสียอีก

ผู้ใหญ่อาจคิดว่าการแบ่งปันที่นอนร่วมสุนัขหรือแมวทำให้นอนหลับ ๆ ตื่น ๆ เพราะธรรมชาติของสัตว์จะดิ้นไปมา ลุกขึ้นเดินขยับเปลี่ยนที่นอนบ่อย ๆ หรือส่งเสียงรบกวนในเวลากลางคืน แต่เรื่องนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อเด็ก ด้วยความที่เด็กตัวเล็กนอนไม่กินพื้นที่ ทำให้มีพื้นที่ว่างในเตียงสำหรับสุนัขและแมวมากกว่าผู้ใหญ่ และเด็กก็ไม่ได้รู้สึกว่าสัตว์เลี้ยงรบกวนแต่อย่างใด กลับรู้สึกสบายใจ ปลอดภัย และส่งผลดีให้นอนหลับลึกและหลับนานยิ่งขึ้น

หากมองในทางกลับกัน การเลี้ยงสัตว์ต้องมีความรับผิดชอบมากมาย ไหนจะเรื่องอาหารการกิน การดูแล และการออกกำลังกาย ทำให้ต้องจัดเวลาเข้มงวด ช่วยให้วางแผนชีวิตได้เป็นระเบียบและปรับสมดุลชีวิตได้ดีขึ้น พอถึงวันที่รู้สึกเครียดและกังวลใจ ลองอุ้มสัตว์เลี้ยงมานอนบนเตียงด้วย จะช่วยให้สบายใจขึ้นมากทีเดียว

วิธีการควบคุมความดันโลหิตสูงที่เกิดจากอาหาร

วิธีการควบคุมความดันโลหิตสูงที่เกิดจากอาหาร

โรคความดันโลหิตสูงเป็นภาวะที่ทำให้มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจเส้นเลือดในสมองแตก อัมพฤกษ์และอัมพาตได้ ซึ่งปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความดัน นอกจากความเครียดและขาดการออกกำลังกายแล้ว คือ การได้รับเกลือโซเดียมจากอาหารต่าง ๆ ซึ่งจะมีฤทธิ์ทำให้บวมน้ำ ส่งผลให้ความดันเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

ในบทความนี้ เราจึงได้รวบรวมวิธีการควบคุมความดันโลหิตสูงจากอาหารมาฝากกัน เพื่อให้ทุกท่านได้นำไปปรับใช้สำหรับการดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น ดังนี้

1. หลีกเลี่ยงการเติมเกลือลงในอาหาร กรณีที่ทำอาหารรับประทานเอง ควรลดสัดส่วนน้ำปลา ซีอิ๊ว ซอสปรุงรส น้ำปลาร้า ฯลฯ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเพิ่มความดันในร่างกายได้

2. งดรับประทานขนมขบเคี้ยว เช่น มันฝรั่งทอดกรอบ ขนมปังแบบแท่งและแผ่นที่เติมเกลือเสริมสร้างรสชาติ ฯลฯ หรือลดการรับประทาน โดยเปลี่ยนจากการซื้อถุงใหญ่เป็นถุงเล็ก เพื่อจำกัดปริมาณในการรับประทานลง

3. งดรับประทานอาหารที่ใส่ผงชูรส เนื่องจากสูตรเคมีของผงชูรส คือ โมโนโซเดียมกลูตาเมต ที่มีฤทธิ์ในการเพิ่มความดันโลหิตสูงได้ อาจใช้วิธีทำอาหารรับประทานเองบ้าง และเมื่อรับประทานอาหารนอกบ้านก็ควรแจ้งแม่ครัวว่า ต้องการงดผงชูรสด้วย

4. กรณีนักกีฬา เช่น นักวิ่ง นักไตรกีฬา มักมีการดื่มเครื่องดื่มเสริมเกลือแร่เพื่อชดเชยที่สูญเสียไปกับเหงื่อ หลังออกกำลังกายต่อเนื่องหลายชั่วโมง ควรจำกัดปริมาณของเกลือแร่ที่ดื่มให้ไม่เกิน 1-2 ขวด เนื่องจากมีเกลือโซเดียมและน้ำตาลเป็นส่วนผสมปริมาณมาก ควรใช้วิธีการดื่มน้ำเปล่า คู่กับการรับประทานผลไม้สด เช่น แตงโม น้ำฝรั่ง น้ำมะพร้าว กล้วยหอม ฯลฯ เพื่อรับเกลือแร่ตามธรรมชาติแทนวิธีการควบคุมความดันโลหิตสูง

5. ลดการรับประทานเนื้อสัตว์ตากแห้ง เช่น หมูแดดเดียวทอด ปลาสลิดทอด รวมถึงอาหารแปรรูป เช่น แฮม ไส้กรอก กุนเชียง ฯลฯ เพราะจะมีการใช้เกลือในกระบวนการถนอมอาหารเป็นปริมาณสูง การรับประทานเป็นประจำ จะทำให้เสี่ยงต่อความภาวะความดันโลหิตสูงมากขึ้น

6. ลดการบริโภคเบเกอรี่ เค้ก คุกกี้ ขนมปัง เนื่องจากมักมีการใส่ผงฟูและวัตถุกันเสียสำหรับให้เก็บได้นานและทำให้อาหารน่ารับประทาน ซึ่งจะมีเกลือโซเดียมเป็นส่วนผสมอยู่ด้วย หากเป็นไปได้ควรทำขนมปังด้วยเครื่องแบบพกพารับประทานเอง จะสามารถปรับสัดส่วนของวัตถุดิบ และเติมธัญพืช เช่น งา อัลมอนด์ ข้าวโอ๊ต ฯลฯ ที่ให้กากใยและสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพได้ด้วย

จะเห็นได้ว่า การควบคุมความดันโลหิตสูงจากการเลือกอาหาร เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ เพียงแค่ใส่ใจเพียงปฏิบัติให้เป็นกิจวัตร จะช่วยให้ทุกท่านห่างไกลจากโรคความดันโลหิตสูงได้อย่างแน่นอน